จิ่วจ้ายโกว อุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามราวกับสรวงสวรรค์ ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่นี่เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ที่ๆ เต็มไปด้วยทะเลสาบสีฟ้าใส น้ำตก ทิวทัศน์ภูเขา และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างใฝ่ฝันอยากมาเยือนสถานที่แห่งนี้ วันนี้พี่เสือจะมาตอบคำถามคาใจใครหลายๆ คนที่กำลังแพลนทริปไปเที่ยว “จิ่วจ้ายโกว” ว่าจะไปช่วงไหนดีนะ ถึงจะสวยที่สุด คุ้มค่าที่สุด ตามมาดูกันเลยฮับ!
จิ่วจ้ายโกว…ดินแดนมหัศจรรย์ตลอดปี!
ก่อนอื่นพี่เสือขอเกริ่นนำสักหน่อยว่า จิ่วจ้ายโกวเนี่ย เค้ามีสภาพอากาศที่หลากหลายมากๆ ตลอดทั้งปีนะฮับ จะร้อน ฝนตก แดดออก หิมะตก เค้าก็มีหมด! แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปเยือนอยู่ฮับ
ไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกวตอนไหนดี?
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
🌼 ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.): อากาศเย็นสบาย (5°C – 23°C) 🌼
- ดื่มด่ำกับสีสันสดใสของดอกไม้ป่า นานาพันธุ์ที่ผลิบานตัดกับผืนน้ำสีฟ้าใสราวกระจกและขุนเขาเขียวขจี 💐🏞️
- ลุ้น! อาจได้เจอหิมะตกค้างบนยอดเขา เพิ่มความโรแมนติกให้ทริป ❄️
- เหมาะกับสายเดินป่า ชมธรรมชาติบำบัดใจ 🚶♀️🚶♂️
2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
☀️ ฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.): อบอุ่นกำลังดี (13°C – 26°C) ☀️
- ตะลึง! กับทะเลสาบสีฟ้าสดใสเป็นพิเศษ แสงแดดส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี ✨
- ตื่นตา! กับน้ำตกที่ไหลบ่าเต็มพลัง ป่าไม้เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำ 💦🌿
- สนุกสุดเหวี่ยง! ล่องเรือชมวิว เล่นน้ำคลายร้อน 🚣♀️
- เดินป่าสบายๆ อากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป 🚶♀️🚶♂️
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม)
🍂 ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. – ต.ค.): เย็นสบาย โรแมนติก (10°C – 23°C) 🍂
- ช่วงพีค! ตื่นตาตื่นใจกับใบไม้เปลี่ยนสี ส้ม แดง เหลือง สวยงามราวกับภาพวาด 🍁
- แชะภาพสวยปังทุกมุม เก็บความประทับใจกลับบ้าน 📸
- อากาศกำลังดี เดินเล่นเพลินๆ ไม่เหนื่อย 🚶♀️🚶♂️
4. ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์)
❄️ ฤดูหนาว (พ.ย. – ก.พ.): หนาวสะใจ (-3°C – 12°C) ❄️
- ดินแดนขาวโพลน ภูเขาและทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง สวยงามราวกับเทพนิยาย 🏔️🧊
- สนุกสุดขั้ว! กับกิจกรรมเล่นสกี ⛷️
- เหมาะสำหรับคนชอบความหนาว ชมหิมะขาวโพลน โรแมนติกสุดๆ ☃️
ไปจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนสวยสุด?
ถ้าถามพี่เสือว่า ไปจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนสวยสุด? พี่เสือขอฟันธงเลยว่า “ช่วงกลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน” เลยฮับ! เพราะช่วงนี้ใบไม้เค้าจะเปลี่ยนสีกันทั้งหุบเขา สวยงามเหมือนภาพวาดเลยฮับ แต่ข้อเสียก็คือ คนจะเยอะหน่อย ราคาที่พักก็อาจจะสูงตามไปด้วยฮับ
ไปจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนถูกสุด?
ถ้าอยากเที่ยวแบบสบายกระเป๋า พี่เสือแนะนำให้ไปช่วง “16 พฤศจิกายน – 1 เมษายน” ฮับ ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ราคาตั๋วเข้าชมก็จะถูกกว่า ที่พัก ร้านอาหารต่างๆ ก็ราคาถูกลงด้วยฮับ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่เน้นความคุ้มค่าฮับ
ไปจิ่วจ้ายโกวหน้าร้อนเป็นไงบ้าง?
ถ้าอยากไปช่วงหน้าร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศก็กำลังสบายเลยฮับ ไม่ร้อนมาก เดินเที่ยวได้ชิลๆ แต่ช่วงนี้ก็เป็นช่วงพีคเหมือนกัน คนจะเยอะพอสมควรฮับ
แล้วตกลง…ไปจิ่วจ้ายโกวช่วงไหนดีที่สุด?
พี่เสือสรุปให้สั้นๆ ง่ายๆ เลยนะฮับ
- เน้นสวย: กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน (แต่คนจะเยอะหน่อย)
- เน้นคุ้ม: 16 พฤศจิกายน – 1 เมษายน (โลว์ซีซั่น ราคาถูก)
- เน้นสบาย: มิถุนายน – สิงหาคม (อากาศดี แต่คนเยอะ)
ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ แต่อยากได้วิวสวยๆ พี่เสือแนะนำให้ไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หรือช่วงกลางเดือนมีนาคมฮับ จะได้ทั้งวิวสวย ราคาดี แถมคนไม่เยอะด้วยฮับ
ทะเลสาบกระจกสุดตระการตา
ด้วยพื้นที่ 190,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,390 เมตร จากระดับน้ำทะเลด้วยความสงบของทะเลสาบ บวกกับทิศของแสงและการหักเหของเงาบนพื้นน้ำ ทำให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามที่เกิดมาจากการสะท้อนของสภาพแวดล้อมในบริเวณทะเลสาบ การันตี ว่าสามารถนั่งดูวิวทิวทัศน์ได้เป็นชั่วโมงโดยไม่เบื่อ
เรื่องน่ารู้: คนในพื้นที่เชื่อว่าความใสของน้ำมีความสำคัญทางจิตวิญญาณ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับประกอบพิธีกรรม
ทะเลสาบนกยูง
ทะเลสาบนกยูงเป็นศูนย์รวมของความงามอันมีชีวิตชีวา สีสันมากมายที่แสดงบนพื้นผิว ตั้งแต่เฉดสีฟ้าไปจนถึงเทอร์ควอยซ์และสีเขียว ชวนให้นึกถึงขนนกยูง การเยี่ยมชมในช่วงเที่ยงวันจะช่วยให้แสงแดดดึงสีสันออกมาได้อย่างเจิดจ้าที่สุด
กิจกรรม: เหมาะสำหรับการปิกนิกริมทะเลสาบ ต้องขอบคุณสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณใกล้เคียง
ทะเลสาบไผ่ลูกศร
ด้วยรูปร่างของทะเลสาบซึ่งมีความคล้ายกับลูกศร บวกกับทัศนียภาพที่ถูกรายล้อมไปด้วยป่าไผ่ ตัดกับทิวทัศน์ภูเขาอันสวยงาม ทะเลสาบนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของน้ำที่ใสเหมาะแก่การเก็บภาพเป็นอย่างมาก
เคล็ดลับ: สถานที่นี้คุณอาจมีโอกาสเห็นสัตว์ท้องถิ่น และเป็นที่ที่นักดูนกนิยมมาศึกษาและเก็บภาพ
ทะเลสาบแพนด้า
โปรดระวัง! คุณอาจได้เจอกับแพนด้า! ใช่แล้วครับ ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของแพนด้ายักษ์ ซึ่งพวกน้องจะอาศัยอยู่ในป่าไผ่บริเวณรอบรอบนั่นเอง นอกจากนี้ทะเลสาบยังมีสีมรกต ที่เกิดจากความ นิ่งสงบและใสสะอาดของผิวน้ำ สะท้อนให้เห็นถึงพืชพันธุ์ธรรมชาติที่อยู่ใต้น้ำ หากใครโชคดีได้เห็นหมีแพนด้าฝากเก็บรูปมาฝากพี่เสือด้วยนะฮับ!
เรื่องน่ารู้: ทะเลสาบมีรูปร่างคล้ายกับหมีแพนด้าที่กำลังหงายท้องอยู่ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เขาตั้งชื่อว่าเป็นทะเลสาบแพนด้า
ทะเลสาบห้าดอกไม้
ที่นี่คุณจะได้พบกับสีสันอันสวยงามของทะเลสาบ ไม่ว่าจะเป็น สีเขียว เหลือง น้ำเงิน และเทอร์ควอยซ์ ทะเลสาบห้าดอกไม้ถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ 5 ชนิดที่บานสะพรั่ง อันได้แก่ ดอกบัว แห้ว พุ่มน้ำ ดอกบัว และวัชพืชน้ำ นอกจากนี้ ด้วยความใสของน้ำทำให้คุณสามารถเห็นต้นไม้ที่เก่าแก่อยู่ภายใต้ทะเลสาบอย่างสวยงาม
รู้หรือไม่: สีนี้เป็นผลมาจากการสะสมของแร่ธาตุและชีวิตของพืชน้ำ และจะมีสีสันแตกต่างกันตามฤดูกาลและช่วงเวลา
ทะเลสาบแรด
ที่นี่ใหญ่เป็นอันดับสองในจิ่วจ้ายโกว รองจากทะเลสาบหลง ทะเลสาบนี้ตั้งชื่อตามตำนานที่ว่าลามะชาวทิเบตขี่แรดเข้าไปในทะเลสาบแล้วหายตัวไป โดยทิ้งเขาไว้บนฝั่ง ทะเลสาบมีสีฟ้าใสและล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะ ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของต้นไม้ขนาดยักษ์จำนวนมากที่ลอยอยู่ในน้ำได้ครึ่งหนึ่งและจมลงครึ่งหนึ่ง
ทะเลสาบหลง
ทะเลสาบหลงเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และลึกที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความยาว 7.5 กม. และลึกถึง 103 ม. ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทะเลสาบเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและมีสีฟ้าใส ทะเลสาบล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะและต้นไม้โบราณ ว่ากันว่าเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำและมีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ก้นทะเลสาบแห่งนี้
น้ำตกเพิร์ลโชล
น้ำตก Pearl Shoal เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,433 เมตรจากระดับน้ำทะเล น้ำตกมีความกว้าง 162.5 เมตร สูง 40 เมตร ไหลลงมาจากสันดอนที่ปกคลุมไปด้วยก้อนกรวดหลากสีสันที่มีลักษณะคล้ายไข่มุก จึงเป็นที่มาของชื่อ น้ำตกแห่งนี้มักพบเห็นเป็นสายรุ้งบนท้องฟ้าเมื่อมีแสงแดดสาดส่องลงมา คุณจะเห็นหยดน้ำจากน้ำตกที่มีลักษณะคล้ายไข่มุกที่กระโดดออกมาจากโขดหินและสันดอนตามสมญานามของมันเลยทีเดียว
เคล็ดลับการถ่ายภาพ: ใช้โหมด Shutter B ของกล้อง เพื่อเก็บภาพสายน้ำตกแบบทอดยาว
อยากไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกวแล้วใช่ไหมล่ะ?
จากที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะได้เห็นว่าจิ่วจ้ายโกวนอกจากมีธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่ง ก็ยังมีเรื่องราวตำนานที่มาจากความเชื่อของคนในท้องถิ่น ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้ยิ่งมีเสน่ห์และน่าค้นหา และสำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากไปทริปทัวร์จิ่วจ้ายโกว หวงหลง สามารถคลิกที่นี่ได้เลย: https://flashtour.co/chengdu-tour