คามิโคจิ ดินแดนสวรรค์บนดิน ใครว่าไปได้แค่ช่วงใบไม้ร่วง!

สวัสดีฮับเพื่อนๆ นักเดินทางทุกคน! วันนี้พี่เสือแฟลชทัวร์จะพาไปทำความรู้จักกับ “คามิโคจิ” หุบเขาสุดอลังการในจังหวัดนะงะโนะ ที่ไม่ได้มีดีแค่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนะจะบอกให้

คามิโคจิอยู่ไหน?

คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นหุบเขาสวยงามราวกับภาพวาด ตั้งอยู่บนที่ราบสูง 1,500 เมตร ในจังหวัดนะงะโนะ การเดินทางก็สะดวกสบายมาก เพราะมีรถบัสวิ่งตรงจากโตเกียวและเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง ใครอยากหนีความวุ่นวายมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ที่นี่แหละใช่เลย!

เปิดให้เข้าเมื่อไหร่?

คามิโคจิเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่ กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ช่วงฤดูหนาวจะปิดนะฮับ เพราะหิมะตกหนักมากกก เดินทางลำบาก

ไปช่วงไหนดี? แต่ละช่วงมีอะไรน่าสนใจ?

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring): กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม

• ต้นฤดู (เมษายน): เป็นช่วงที่คามิโคจิเพิ่งเปิดทำการหลังจากฤดูหนาว หิมะยังคงปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ อุณหภูมิยังค่อนข้างต่ำ อาจลดลงถึงเลขตัวเดียวได้ ใครชอบความขาวโพลนของหิมะ ต้องมาช่วงนี้เลย
• ปลายฤดู (พฤษภาคม): หิมะเริ่มละลาย เผยให้เห็นใบไม้สีเขียวสดใสที่กำลังผลิบาน อากาศเย็นสบายกำลังดี แถมนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมากด้วยนะ
• ข้อดี: ธรรมชาติสวยงาม สงบ คนไม่พลุกพล่าน
• ข้อเสีย: บางร้านค้าและโรงแรมอาจยังไม่เปิดให้บริการ

ฤดูร้อน (Summer): กลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน

• อากาศเย็นสบายกว่าในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว 5-9 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีร้อนมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์
• ข้อดี: เหมาะสำหรับการเดินป่า ปีนเขา และทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ สายลุยต้องไม่พลาด
• ข้อเสีย: ช่วง Obon Holidays (11-16 สิงหาคม) นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก

ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn): ต้นเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

• ช่วงพีค: กลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
• ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก โดยเฉพาะต้นเบิร์ชสีขาว (White Birch) ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงในคามิโคจิ
• ข้อดี: ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามราวกับภาพวาด อากาศเย็นสบายกำลังดี
• ข้อเสีย: เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด และอาจมีพายุไต้ฝุ่น

ฤดูหนาว (Winter): กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนเมษายน

• ปิดทำการ: ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินป่าเท่านั้น
• ข้อดี: เหมาะสำหรับการเดินป่าในฤดูหนาว (ต้องมีประสบการณ์และเตรียมตัวอย่างดี)
• ข้อเสีย: อากาศหนาวจัด มีหิมะตกหนัก
• อากาศเย็นสบายกว่าในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว 5-9 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีร้อนมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์

สรุปฤดูต่างๆ คามิโคจิ

ที่คามิโคจิมีอะไรให้ทำบ้าง?

ขอบอกเลยว่าเยอะฮับ ไปแล้วคุ้มแน่นอน ตามนี้เลย!

เดินชิล ชมวิวหลักล้าน

• สะพาน Kappabashi (สะพานกัปปะ): จุดเช็กอินสุดฮิต ใครมาไม่ถ่ายรูปที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงคามิโคจินะฮับ บอกเลยว่าวิวภูเขาโฮตากะด้านหลังนี่อลังการงานสร้างสุด ๆ

• แม่น้ำ Azusa: ใสกิ๊งราวกับกระจก! แค่เดินเล่นริมน้ำก็ฟินแล้ว หรือจะล่องเรือชมวิวก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
• Dakesawa Marsh: พื้นที่ชุ่มน้ำที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย ใครชอบถ่ายรูปธรรมชาติ รับรองว่าได้รูปสวย ๆ เพียบ!
• Myojin Pond & Hotaka Shrine: สระน้ำใสแจ๋วตัดกับศาลเจ้าสีแดงสด แค่เห็นก็รู้สึกสงบ สบายใจแล้วฮับ

สายลุย ปีนเขาพิชิตยอด

• ภูเขา Hotaka: ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่หมูนะฮับ แต่ถ้าพิชิตได้ วิวข้างบนสวยคุ้มแน่นอน!

• ภูเขา Yakedake: ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท ใครอยากเห็นควันลอยฟุ้ง ๆ ต้องมาที่นี่เลย
• ภูเขา Yari: ยอดเขาสุดท้าทายสำหรับนักปีนเขาตัวจริง เส้นทางโหดเอาเรื่อง แต่ถ้าพิชิตได้นี่บอกเลยว่าโคตรเท่!

กิจกรรมอื่น ๆ เพียบ!

• ชมใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงใบไม้ร่วง (ปลาย ก.ย. – ต.ค.) ที่นี่จะกลายเป็นโลกสีทองแดง สวยงามราวกับภาพวาดเลยฮับ
• ส่องสัตว์ป่า: ลิง กวาง หมี นกเพียบ! ใครชอบดูสัตว์ รับรองว่าฟินแน่นอน
• พักผ่อนในที่พักสุดฟิน: โรงแรมหรู รีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะกางเต็นท์แคมป์ปิ้ง ก็มีให้เลือกตามสไตล์คุณเลย
• แช่ออนเซ็นคลายเมื่อย: แช่น้ำแร่ธรรมชาติร้อน ๆ ให้หายเหนื่อยจากการเดินป่า บอกเลยว่าฟินสุด ๆ

เที่ยวคามิโคจิกับพี่เสือแฟลชทัวร์ สนุกกว่า แถมได้เพื่อนใหม่เพียบ!

ใครอยากเที่ยวคามิโคจิแบบไม่ต้องวางแผนเองให้ยุ่งยาก แนะนำให้มาเที่ยวกับพี่เสือแฟลชทัวร์เลยฮับ รับรองว่าสนุก ปลอดภัย แถมได้เพื่อนใหม่เพียบ! เรามีแพ็กเกจทัวร์หลากหลายให้เลือกเข้าไปดูรายละเอียดแพ็กเกจทัวร์ทั้งหมดได้ที่นี่เลย

• คลิกดูโปรแกรมทัวร์คามิโคจิ

แผนที่เที่ยวคามิโคจิ

เป็นยังไงกันบ้างฮับ กับคามิโคจิ ดินแดนสวรรค์บนดิน ที่ไม่ได้มีดีแค่เดินป่าอย่างที่คิด ใครสนใจอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง ก็แพ็คกระเป๋าแล้วตามมาเลยฮับ!